วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

Picasa



Picasa เป็นโปรแกรมจัดการรูปภาพของ Google ที่แจกให้ใช้ฟรี เปิดตัวตั้งแต่ปี 2004  มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมีบริการ Picasa Web Albums ร่วมด้วยให้สามารถอับโหลดไฟล์เก็บไว้บนเว็บได้ แบบฟรีให้พื้นที่ 1 GB   มีความสามารถในการจดจำใบหน้าของคนในรูปได้
ค้นหาจัดระเบียบ ทำให้เป็นระบบ และแบ่งปันรูปภาพของคุณ
Picasa เป็นโปรแกรมฟรีจาก Google ที่เราสามารถดาวน์โหลดได้จาก picasa.google.com มีประโยชน์ใช้สอยในการ:
-  ค้นหาและจัดระเบียบรูปภาพทุกรูป (ที่คุณต้องการ) บนคอมพิวเตอร์ของคุณให้เป็นระบบ
-  ใช้แก้ไขปรับแต่งรูปภาพและเพิ่มลูก เล่น effects บนภาพด้วยวิธีง่ายๆ ในไม่กี่คลิ๊ก
-  แบ่งปันรูปภาพให้กับคนอื่นผ่านอีเมล์ สั่งพิมพ์ออนไลน์ และแม้แต่อัพโหลดขึ้นบล๊อก



ที่มา :


Google SketchUp

Google SketchUp เป็นโปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3D (Three - Dimensional) ที่มีความง่ายต่อการใช้งาน และเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรม งานออกแบบภายในและภายนอก การออกแบบกลไกลการทำงานของเครื่องจักร เฟอร์นิเจอร์ ภูมิประเทศ ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงงานออกแบบฉาก อาคาร และสิ่งก่อสร้างในเกม หรือจะเป็นกมรจัดฉากทำ Story Boards ในงานภาพยนต์หรือละครโทรทัศน์ก็สามารถทำได้
          
นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับปลั๊กอิน (Plugin) ต่างๆที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Google SketchUp ให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพลั๊กอินที่ช่วยให้การสร้างรูปทรงต่างๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น ไปจนถึงปลั๊กอินที่ช่วยในการจัดแสงเงาให้ดูสมจริงอย่างเช่น V-Ray หรือ Podium



ที่มา : 

Address Book

Address Book มีไว้สำหรับเก็บรายชื่อ Email address ของบุคคลที่คุณต้องการจะติดต่อด้วย (คล้าย ๆ กับสมุดโทรศัพท์) ทำให้เกิดความสะดวก คือไม่จำเป็นต้องจำชื่อ Email Address ยาว ๆ นอกจากนี้เรายังมีคำสั่งที่ช่วยให้สะดวกในการทำงานคือ สามารถค้นหา ตั้งเป็น Group ทำให้สามารถส่ง mail ได้ในครั้งเดียวถึงบุคคลเป็นกลุ่ม ๆ ที่ต้องการ เช่น กลุ่มเพื่อน กลุ่มลูกค้าภายในประเทศ ต่างประเทศ ..
วิธีการเปิดใช้งาน Address Book
คลิกที่ไอคอน Address จาก Toolbar หรือ
คลิกเมนู Tools เลือกเมนูย่อย Address Book หรือ
กดปุ่ม keyboard Ctrl+Shift+B
การเพิ่ม Email Address เข้าไปใน Address Book
1.คลิก ไอคอน New เลือก New Contact หรือ คลิกเมนู File เลือก New Contact
2.พิมพ์ชื่อ นามสกุล ในช่อง (First, Middle, Last) (ช่อง Display จะแสดงให้อัตโนมัติ)
3.พิมพ์ Email Address ในช่อง Email Address จากนั้น คลิกปุ่ม ADD และตามด้วยปุ่ม OK
4.ถ้าต้องการ เพิ่ม Email Address อื่นๆ ให้ทำตามขั้นตอนข้างต้นใหม่

การลบ Email Address ใน Address Book
คลิกเลือก Email Address ที่ต้องการ
คลิกขวาเลือก Delete หรือกดปุ่ม Delete ที่ keyboard

ที่มา : 

Android

แอนดรอยด์ (อังกฤษ: android) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก ทำงานบนลินุกซ์ เคอร์เนล เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอนดรอยด์  จากนั้นบริษัทแอนดรอยด์ถูกซื้อโดยGoogle และนำแอนดรอยด์ไปพัฒนาต่อ ภายหลังถูกพัฒนาในนามของ Open Handset Alliance ทางGoogleได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดต่างๆ ด้วยภาษาจาวา และควบคุมอุปกรณ์ผ่านทางชุด Java libraries ที่กูเกิลพัฒนาขึ้นแอนดรอยด์ได้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยทางกูเกิลได้ประกาศก่อตั้ง Open Handset Alliance กลุ่มบริษัทฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และการสื่อสาร 48 แห่ง ที่ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา มาตรฐานเปิด สำหรับอุปกรณ์มือถือ ลิขสิทธิ์ของโค้ดแอนดรอยด์นี้จะใช้ในลักษณะของซอฟต์แวร์เสรีโทรศัพท์เครื่องแรกที่สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้คือ HTC Dream ออกจำหน่ายเมื่อ 22 ตุลาคม 2551ความสามารถใหม่ของ แอนดรอยด์ 2.3 ที่เพิ่มขึ้นมาคือ Near field communication



ที่มา :

Google Drive




กูเกิล ไดรฟ์ (อังกฤษ : Google Drive) เป็นบริการ Online Service ประเภท Cloud Technology ที่ให้ผู้ใช้สามารถจัดเก็บข้อมูล ไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ หรือไฟล์ประเภทต่างๆ ลงไปได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (จะต้องสมัคร Gmail ก่อน) โดยการใช้ฟรีนั้น จะมีเนื้อที่ให้จัดเก็บถึง 15 GB (Gigabytes : จิกะไบต์) ซึ้งถือว่ามีเนื้อที่มากพอสมควรสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ถ้าหากต้องการเนื้อที่เพิ่มเติมมากกว่านั้น สามารถทำได้โดยการเสียค่าบริการรายเดือน หรือรายปี



ข้อดีของการใช้งาน Google Docs

• ประหยัดพื้นทีในการเก็บเอกสารหลายรูปแบบ หลายเวอร์ชั่น
• เอกสารนั้นๆ ก็จะจัดเก็บไว้ที่ Server ของ Google ซึ่งมีความปลอดภัยที่สูง
• ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมที่เครื่องคอมพิวเตอร์ให้ยุ่งยาก
• ง่ายต่อการใช้งาน เพราะเหมือนทำงานโดยใช้โปรแกรม Microsoft Office
• ไม่ต้องส่งเอกสารไปทางอีเมล์หรือ Copy ใส่ Thumb drive ไม่ต้องเสียเวลาในการส่งอีเมลกลับไปกลับมา หรือประสบปัญหาอีเมลของผู้รับเต็มทำให้ไม่สามารถรับไฟล์เอกสารได้
• ผู้มีส่วนร่วมทุกคนสามารถเข้าจัดการเอกสารได้ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดเอกสารมาเก็บไว้เครื่องคอมพิวเตอร์ของตัวเอง
• สามารถควบคุมกำหนดสิทธิ์ว่าใครสามารถดู แก้ไข เอกสาร ได้บ้าง
• สามารถทำงานบนเอกสารชิ้นเดียวกัน ขณะเดียวกัน ได้คราวละหลายๆคน ซึ่งแต่ละคนสามารถเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังพิมพ์อะไรอยู่ แบบ Real-Time


ที่มา :
http://ipramnongoom.blogspot.com/2012/08/google-docs_6286.html

ผู้ก่อตั้ง Google


แลรี เพจ (Larry Page) และ เซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) สองนักศึกษาปริญญาเอกแห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ร่วมกันก่อตั้งบริษัท "กูเกิล" (Google Inc.) ที่โรงรถของเพื่อนในเมนโล พาร์ค (Menlo Park) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา กูเกิลเป็นเว็บไซต์สำหรับค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เริ่มต้นมาจากโครงงานวิจัยวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเพจและบริน การสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ใช้ชื่อเครื่องมือค้นหาว่า "BackRub" จากนั้นทั้งสองก็ทดสอบเครื่องมือโดยจะทะเบียนโดเมนเนมชื่อ "Google.com" เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2540 และก่อตั้งบริษัทในปีต่อมาด้วยเงินทุนจดทะเบียน 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จากนั้นบริษัทก็ขยายตัวเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2547 ขยายกิจการจากเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลเป็น ค้นหาสถานที่หรือแผนที่ออนไลน์ใน "กูเกิลเอิร์ธ" (Google Earth) ค้นหาตำแหน่งดวงดาวใน "กูเกิลสกาย" (Google Sky) สำหรับรับส่งอีเมลใน "จีเมลล์" (Gmail) ค้นหาและอัพ-ดาวน์โหลดวิดีโอใน "กูเกิลวิดีโอ" (Google VDO) และในปี 2548 กูเกิลยังได้ซื้อกิจการของเว็บไซต์ YouTube.com เว็บไซต์สำหรับแชร์คลิพวิดีโอยอดนิยมของโลก ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมาเทนวิว แคลิฟอร์เนีย มีพนักงานประจำ 13,077 คน เมื่อปี 2549 ทำรายได้ถึง 10.604 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ



ที่มา :
 http://guru.sanook.com/history/topic/2682/%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B8%B5_%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%88_%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%8C_%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99_%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%A5/

Gmail

นักท่องเน็ตส่วนใหญ่ต้องมี อีเมล (Email) อย่างน้อย คนละ 2 ชื่อ เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างกัน อีเมลยอดนิยมส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้น Hotmail Yahoo และ Gmail


 Gmail คือ บริการฟรีอีเมล ที่จัดทำขึ้นโดย Google เปิดตัวให้ทดลองใช้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2547 ในตอนนั้น Gmail ยังอยู่ในช่วงพัฒนา ผู้ที่ต้องการใช้งานจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการเชิญ (invite) เท่านั้น แต่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทาง Google ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถใช้งาน Gmail โดยสมัครผ่านทางหน้าเว็บ http://www.gmail.com/ ได้เลย ถือว่าเป็นการเปิดศึกของการให้บริการ ฟรีอีเมล ที่น่าจับตามอง

  
บริการ Gmail ดีอย่างไร 

Gmail ได้เปรียบผู้ให้บริการฟรีอีเมลทั่วไปในเรื่องของพื้นที่การเก็บอีเมล ในขณะที่ทาง Hotmail และ Yahoo ให้พื้นที่ใช้งานอยู่ที่ 1 GB แต่ของ Gmail กลับให้พื้นที่การใช้งานมากกว่าโดยอยู่ที่ 2.8 GB เทียบเท่ากับหน้าเว็บเพจถึง 1.4 ล้านหน้า !!!


จุดเด่นโดนใจนอกเหนือจากพื้นที่การใช้งาน

ที่ให้เยอะจนสามารถเก็บอีเมลไว้อย่างจุใจแล้ว Gmail ยังสามารถเช็คอีเมลเข้าใหม่ผ่านทางเว็บบราวเซอร์ของ Firefox ได้เลย นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษในการใช้บริการต่างๆ ของ Google อย่างเช่น บริการ iGoogle เสิร์ชเอ็นจิ้น แบบใหม่ที่สามารถจัดรูปแบบ การใช้งานตามสไตล์ของผู้ใช้ เพียงแค่มีอีเมลของ Gmail เพื่อใช้ในการเข้าระบบ เป็นต้น


แต่คุณรู้หรือไม่ว่า..

มีเพียงประเทศ เยอรมัน และ ประเทศ อังกฤษ เท่านั้น ที่ทาง Google ต้องเปลี่ยนจาก Gmail เป็น Google Mail เนื่องจากชื่อ Gmail ซ้ำกับชื่อผู้ให้บริการอื่นที่มีอยู่ก่อนแล้ว ทำให้กลายเป็นเพียง 2 ประเทศในโลก ที่ใช้ @googlemail.com


ที่มา :


Blogger

Blogger คือ บริการฟรีอย่างหนึ่งของ Google ที่มีไว้สำหรับเขียน เล่า หรือแชร์สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติส่วนตัว ประสบการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการแชร์รูปหรือคลิปวิดีโอ 
ซึ่งบริการนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่ต้องสมัครเป็นสมาชิก Blogger ก่อนเท่านั้น

การสร้างบทความ หรือ Post ใน Blogger หนึ่งในแอพพลิเคชั่นของ Google Apps Business นั้นมีขั้นตอนการทำที่ง่ายมาก สามารถทำตามได้ดังต่อไปนี้
  1. เปิด Blogger ของตนเองขึ้นมา จากนั้นลงชื่อเข้าใช้งานให้เรียบร้อย
  2. จะพบกับหน้าแรกของ Blogger ของตนดังรูป

3.กดปุ่ม “บทความใหม่” จากเมนูทางด้านซ้ายมือ (ตามที่วงกลมไว้ตามภาพ) เพื่อสร้างบทความหรือ Post ใหม่


4.Blogger จะแสดงหน้าบทความเปล่าขึ้นมา



 5.ใส่เนื้อหาที่ต้องการให้เสร็จเรียบร้อย



6.จากนั้นเลือกเครื่องมือที่ต้องการจัดรูปแบบหรือตกแต่ง จากนั้นจัดรูปแบบตามความต้องการให้เรียบร้อย


7.กดปุ่ม "แสดงตัวอย่าง"  ดูหน้าบทความที่แสดง เมื่อพอใจแล้วจากนั้นกดปุ่ม "บันทึก" และ กดปุ่ม "เผยแพร่" เพื่อแบ่งปันบทความ



8.จากนั้น Blogger จะแสดงรายการบทความทั้งหมดที่ได้สร้างไว้ขึ้นมา โดยที่บทความที่สร้างไว้ล่าสุดจะอยู่ด้านบนสุดของรายการ


9.ถ้าต้องการแก้ไข ดู ใช้ร่วมกัน หรือลบหน้าบทความนั้น สามารถทำได้โดยการนำเม้าส์ไปชี้ที่บทความ จากนั้นเมนูย่อยจะแสดงออกมา แล้วเลือกเมนูที่ต้องการกระทำได้เลย


10.เมื่อเลือกดูหน้าบทความนั้น Blogger จะแสดงบทความที่เลือกบนรูปแบบหรือเทมเพลตที่ได้ตั้งค่าไว้



ที่มา :







Google Talk

Google Talk เป็นโปรแกรมการส่งข้อความ(ในทันที) ของ Google โดยเมื่อคุณทำการเข้าใช้ระบบ(log in)บัญชีของ Google แล้ว  นั่นก็หมายความว่าคุณได้อยู่ในระบบของ Gmail เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคุณสามารถเข้าใช้ Google Talk ได้โดยเข้าไปในหน้าการใช้งานของมัน และยังคงสามารถใช้ Google Talk หลังจากที่คุณทำการออกจากระบบ (log out) Gmail แล้ว ได้อีกด้วย  ซึ่งระบบนี้รองรับการส่งข้อความที่เป็นตัวหนังสือ, การส่งไฟล์ข้อมูล, การโทรคุยกัน  รวมถึง การส่งข้อความเสียงอีกด้วย


                      

















บทสรุป  Google Talk เป็นโปรแกรมอเนกประสงค์ที่ไม่มีฟังก์ชั่นที่เยอะเกินความจำเป็น โปรแกรมนี้ติดตั้งง่ายและสามารถใช้งานได้อย่างดี มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมต้องติโปรแกรม Google Talk คือ คุณไม่สามารถสร้างรายชื่อเพื่อนจากรายชื่อเพื่อนใน Google  Plus ได้ จริงๆ แล้วมันจะได้มาถ้าโปรแกรม Google Talk มันจะถูกรวมเข้ากับ Google Plus เหมือนกับ Chrome browser ได้ทำการรวม Gmail เข้าไว้ด้วยกันแล้ว

การสร้างเว็บไซต์ด้วย Google Sites

    Google Sites คือเว็บไซต์ของ Google ที่ให้บริการสร้างเว็บไซต์ฟรี ซึ่งเราสามารถสร้างเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย   โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งลักษณะของเว็บไซต์ได้ตามความต้องการ สามารถรวบรวมความหลากหลายของข้อมูลไว้ในที่เดียวได้ เช่น วิดีโอ ปฏิทินการนําเสนอเอกสารหรือสิ่งที่แนบ และข้อความ รวมไปถึงความสามารถในการกําหนดความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์ด้วย


  1. เข้าสู่ Google Sites ที่ https://sites.google.com/



  1. ทำการ Login ด้วย Account ของ Gmail
  2. กดปุ่ม "Create"

 4.กรอกชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการ


 5.จากนั้นเลือก "Select a theme"

6.แล้วกดปุ่ม "Create Site"


7.เป็นอันเสร็จสิ้นการสร้างเว็บไซต์ที่ Google Site






Google Calendar

Google Calendar คือ บริการปฏิทินแบบออนไลน์ของ Google ซึ่งทำให้คุณสามารถเก็บข้อมูลเหตุการณ์ต่างๆ รวมไว้ในที่เดียวกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกำหนดการนัดหมายและกำหนดเวลาเหตุการณ์ต่างๆ สามารถส่งข้อความเชิญ สามารถใช้ปฏิทินร่วมกับเพื่อนร่วมงาน และ ค้นหาเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ซึ่ง Google Calendar มีข้อดีกว่าโปรแกรมที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ต่างๆดังนี้


1.)Google Calendar เป็นบริการออนไลน์และให้บริการฟรี ซึ่งต่างกับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อโปรแกรมมาใช้


2.)โปรแกรมในคอมพิวเตอร์มีการแสดงกิจกรรมในรูปแบบได้น้อย ซึ่งต่างจาก Google Calendar
 ที่แสดงตารางกิจกรรมได้หลายรูปแบบมากกว่า

3.)Google Calendar มีการแจ้งเตือนผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่วนโปรแกรมที่คล้ายกับ 
Google Calendar ไม่มีการแจ้งเตือนแบบนี้

4)Google Calendar ใช้งานได้ง่ายและสะดวกกว่า จึงทำให้ผู้ที่เริ่มใช้งานเข้าใจได้ง่าย

5.)Google Calendar สามารถใช้ทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ตจึงทำ ให้สะดวกกว่าโปรแกรมที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ซึ่งถ้าคอมพิวเตอร์เครื่องไหนไม่มี โปรแกรมนั้นก็จะใช้ไม่ได้




5 เคล็ด(ไม่)ลับในการใช้ Google Carlendar

1.รับแจ้งกำหนดการทาง Email
ต้องการให้ Google Calendar ส่งอีเมลล์มาเตือนกำหนดการประจำวันทุกเช้า จะได้ไม่หลงลืมนัดสำคัญประจำวัน ทำได้โดยเข้าไปที่ Calendar settings -> Calendars คลิกที่ Notification หลังรายการปฏิทินที่สนใจจะให้เตือน (อยู่ประมาณกลาง ๆ หน้า) คลิกที่กล่อง Email หลัง Daily Agenda


2.ดูปฏิทินแบบ Offline
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ก็สามารถดูปฏิทินได้ครับ โดยการติดตั้ง Chrome App ที่ชื่อว่า Google Calendar จาก Chrome Web Store เป็นแอพที่พัฒนาโดย Google 
เมื่อเปิดแอพขึ้นมาหน้าตาไม่แตกต่างจาก Google Calendar เวอร์ชั่นเดสก์ทอปที่คุ้นเคย ใช้งานง่ายเหมือนกัน เพียงแต่มีคุณสมบัติที่ยอมให้คุณดูปฏิทิน แม้ในขณะที่ไม่ได้ต่ออินเทอร์เน็ต

3.สร้างกำหนดการผ่าน Quick Add
การสร้างกำหนดการด้วย Quick Add ช่วยให้การสร้างกำหนดสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามจะให้กำหนดการที่ไปปรากฏบนปฏิทินมีความถูกต้องชัดเจน คุณควรยึดหลักลำดับความ ดังนี้  “what, with who, where และ when”  เช่น Seminar with K.POP at Satorn Road on March 6, 2012 8:30 a.m. – 12:30 p.m. เป็นต้น ในกรณีเป็นกำหนดการแบบทั้งวันก็ไม่ต้องกำหนดเวลา




4.แบ่งปันปฏิทิน
คุณสามารถแบ่งปันปฏิทินของคุณไปยังบุคคลอื่นได้ตามต้องการ โดยการป้อนอีเมลล์ และสามารถกำหนดสิทธิให้กับผู้ที่ได้รับการแบ่งปันปฏิทินที่เห็นว่าเหมาะสมได้ด้วย
การกำหนดสิทธิมีให้เลือกดังนี้ “Make changes AND manage sharing” , “Make changes to events” , “See all event details” และ “See only free/busy (hide details)”

5.แสดงปฏิทิน Thai Holidays
Google Calendar มีปฏิทินวันหยุดสำหรับนานาชาติให้เลือกใช้ ของประเทศไทยก็มีครับ ถ้าสนใจจะแสดงปฏิทินวันหยุด เข้าไปที่ Calendar settings -> Calendars -> Browse interesting calendars -> Holidays -> Thai Holidays คลิกที่ Subscribe

ที่มา :